เช็คด่วน! ในองค์กรยังใช้งานโปรแกรมทำงานผิดลิขสิทธิ์อยู่รึเปล่า? ตอนนี้มีทางเลือกใหม่ราคาประหยัด ฟีเจอร์ครบอย่างบริการ Microsoft Office 365 แล้วนะ

เปิดเหตุผลที่องค์กรยุคใหม่ควรใช้บริการ Microsoft Office 365

เชื่อว่าทุกวันนี้หลายบริษัทยังคงมีคำถามคาใจเกี่ยวกับการเลือกใช้โปรแกรมออฟฟิศที่เหมาะสม เพราะไม่รู้ว่าควรจะเลือกใช้โปรแกรมแบบไหนถึงจะตอบโจทย์การทำงาน หรือต้องซื้ออย่างไรถึงจะได้โปรแกรมมาใช้แบบครั้งเดียวจบ ครบทุกความต้องการ ไม่ต้องหาซื้อเพิ่มให้วุ่นวาย ในขณะเดียวกันบางบริษัทอาจเจอปัญหาเกี่ยวกับโปรแกรม Microsoft Office ที่ใช้อยู่ ว่าทำไมวันดีคืนดีเกิดค้างจนทำงานต่อไม่ได้ หรือพบเจอเหล่ามัลแวร์และไวรัสเข้ามากวนใจ จนทำให้ทีม IT ต้องมานั่งเช็ครายเครื่องอีกครั้ง เพราะในบางกรณีปัญหาเหล่านี้อาจมาจากการที่บาง User ติดตั้ง หรือแชร์ License โปรแกรมทำงานแบบผิดลิขสิทธิ์หรือผิดเงื่อนไขอยู่นั่นเอง

หากบริษัทของคุณกำลังเผชิญกับปัญหาเหล่านี้ ขอชวนมารู้จักกับบริการ Microsoft Office 365 บริการดี ๆ ที่ให้ความยืดหยุ่นสูง ชำระเป็นค่าใช้จ่ายรายเดือน ไม่ต้องลงทุนซื้อ License ก้อนโต ตอบโจทย์องค์กรยุคใหม่และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้มากกว่าที่เคย

 

รู้ยัง? ใช้งานโปรแกรมการทำงานผิดลิขสิทธิ์ อาจเสี่ยงถูกปรับก้อนโต!

ก่อนที่จะไปรู้จักกับบริการ Microsoft Office 365 ขอเล่าสักนิดว่าทุกวันนี้บ้านเรามีหน่วยงานที่ชื่อว่า BSA (Business Software Alliance) ซึ่งเป็นองค์กรเครือข่ายที่มีอยู่ทั่วโลก ภายใต้การร่วมมือกันของบริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์ชื่อดังที่เราใช้งานกันอย่างแพร่หลาย เช่น Adobe, Microsoft, Apple, Oracle, Trend Micro และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยหน่วยงานนี้จะทำหน้าที่ตรวจสอบซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งในประเทศไทยก็ได้มีการตั้งรางวัลนำจับสูงสุดถึง 1 ล้านบาท เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ผู้ที่รู้เห็นการใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ช่วยกันแจ้งมายังหน่วยงาน เชื่อไหมว่าช่วงที่ผ่านมา ผู้แจ้งเบาะแสส่วนมากก็คือคนในองค์กร หรือแม้แต่ช่างซ่อมคอมพิวเตอร์ที่ได้พบเห็นการละเมิดลิขสิทธิ์เหล่านั้น หากใครที่อยากรู้ว่าจะสามารถแจ้งได้ผ่านช่องทางไหนบ้าง ขอกระซิบว่าสามารถเสิร์ชหาบน Google ได้เลย 

เมื่อได้รับแจ้ง หน่วยงาน BSA จะทำการตรวจสอบเพื่อยืนยันว่ามีการใช้งานซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์จริงหรือไม่ โดยทำงานร่วมกับสำนักงานกฎหมายและเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าตรวจค้นแบบจู่โจม ซึ่งในการตรวจสอบนั้นสามารถทำได้หลายวิธี แถมยังละเอียดเสียด้วย ถึงตรงนี้เราขอบอกว่า แม้จะทำการ Uninstall ซอฟต์แวร์เหล่านั้นไปแล้วก็ใช่ว่าจะพ้นความผิด เพราะทาง BSA สามารถตรวจสอบได้ว่าคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องเคยติดตั้งซอฟต์แวร์อะไรไปบ้าง หมดอายุไปเมื่อไหร่ ใช้เกินจำนวน License หรือไม่ หรือแม้แต่ Uninstall ไปวันไหนก็ยังรู้อีกด้วย! 

หลังจากตรวจสอบแล้วทาง BSA จะทำการคำนวณค่าความเสียหายจากจำนวนโปรแกรม จำนวนผู้ใช้ และระยะเวลาที่ใช้งาน แน่นอนว่าหลายบริษัทที่ถูกตรวจสอบ ต้องจ่ายค่าเสียหายถึงหลักล้านเลยทีเดียว เพราะ Microsoft Office นั้นเป็นโปรแกรมพื้นฐานในการทำงานที่มักจะถูกติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง ซึ่งนอกเหนือจากค่าเสียหายของการละเมิดลิขสิทธิ์ ยังมีค่าดำเนินการทางกฎหมาย ค่าใช้จ่ายในการเข้าตรวจสอบ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการลงประกาศหนังสือพิมพ์เพื่อสนับสนุนให้ใช้ซอฟต์แวร์ถูกลิขสิทธิ์ ที่สำคัญก็คือความผิดในฐานละเมิดลิขสิทธิ์นั้นเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสู้คดีชนะ เพราะหน่วยงาน BSA นั้นมีหลักฐานที่แน่นหนาอยู่ในมือก่อนเข้าจับกุมอยู่แล้ว

แล้วโปรแกรมไม่แท้เหล่านี้ มาจากไหน?

ปัญหาของการใช้งาน Microsoft Office แบบไม่แท้นั้นเชื่อว่าส่วนใหญ่แล้วเกิดจากความไม่รู้ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ License แท้มาเพียง License เดียว แล้วแชร์กันภายใน เพราะไม่รู้ว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ หรืออยากได้โปรแกรมราคาย่อมเยาที่มีครบทุกอย่างที่ต้องการ แต่เผลอไปซื้อของไม่แท้โดยไม่รู้ตัว หรือบางครั้งพนักงานก็อาจดาวน์โหลดโปรแกรมฟรีแบบไม่แท้มาติดตั้งด้วยตัวเอง เพราะไม่มีเจ้าหน้าที่ IT คอยดูแลและให้คำแนะนำ 

 

จะเกิดอะไรหากใช้ Microsoft Office แบบไม่แท้?

  • ปัญหามาเต็ม ช้า ค้าง ไม่ทันใจ ทำงานเท่าไหร่ก็ไม่เสร็จ 

อีกหนึ่งปัญหาที่จะเกิดขึ้นแน่ ๆ หากเราใช้ Microsoft Office ไม่แท้ก็คือการที่ต้องมานั่งเสียอารมณ์กับโปรแกรมที่ช้า ค้าง ไม่ทันใจ เปิดไฟล์งานทีไรก็ Program is Not Responding จะส่งเรื่องไปทาง Microsoft ก็ไม่ได้ด้วย ลบ แล้วลงใหม่กี่รอบก็เจอแต่ปัญหาเดิมๆ 

  • เสี่ยงกับไวรัสหรือมัลแวร์ที่ไม่ได้รับเชิญ

  ในเวลาที่ติดตั้งโปรแกรมไม่แท้นั้น ของแถมที่เราอาจจะได้มาโดยไม่รู้ตัวก็คือไวรัสหรือมัลแวร์ที่แฝงตัวมา สุดท้ายแล้วไม่ใช่แค่ทำให้คอมพิวเตอร์ของ User เกิดปัญหา แต่อาจส่งผลกระทบถึงองค์กรได้เลยทีเดียว 

  • เสียหายหลายต่อ เสียซ้ำ เสียซ้อน

นอกจากจะเสียเวลาแก้ไขปัญหาแล้ว เมื่อไรที่ถูกขอเข้าตรวจสอบ License และพบว่าใช้โปรแกรมผิดลิขสิทธิ์จริง อาจเสียชื่อเสียง ถูกปรับย้อนหลังมหาศาลตามจำนวน License ที่มีการใช้งานจริง แถมโดนฟ้องเรียกค่าเสียหายทางกฎหมายอีกต่างหาก ไม่คุ้มกันเลย

 

ข้อดีของการใช้บริการ Microsoft Office 365

 

ทำงานได้อย่างสบายใจ แค่ใช้บริการ Microsoft Office 365

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้สึกปวดหัวไม่น้อยกับปัญหาของ Microsoft Office แบบไม่แท้ หรือหลายคนอาจจะกำลังรู้สึกว่านี่แหละคือสิ่งที่กำลังเผชิญอยู่ในทุกวัน ซึ่งปัญหาทั้งหมดนี้สามารถแก้ไขได้ด้วยบริการ Microsoft Office 365 

  • สามารถเลือกใช้งานได้ตามใจ ชำระค่าบริการเป็นรายเดือนราคาย่อมเยาเพียงหลักร้อย*
  • ได้โปรแกรมออฟฟิศพื้นฐานแบบครบชุด ทั้ง Word, PowerPoint, Excel, OneNote, Outlook, Access และ Publisher
  • มาพร้อม Cloud ความจุถึง 1TB ทำงานไป Sync ไป สบายใจไม่ต้องห่วงไฟล์หาย 
  • สามารถทำงานได้จากทุกที่ ทุกเวลา เพียงเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต                                                                   
  • ใช้ได้หลายอุปกรณ์ ทำงานได้ทุกระบบปฏิบัติการ  
  • มีฟีเจอร์ Co-Authoring ช่วยให้ทำงานร่วมกันได้สะดวกยิ่งขึ้น  
  • สามารถอัปเกรดเวอร์ชันได้ตลอดโดยไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม 
  • ปลอดภัยจากไวรัสและมัลแวร์แปลกปลอม 

 

เพราะการใช้โปรแกรมแบบไม่แท้นั้นไม่ใช่แค่สร้างปัญหาไม่รู้จบให้กับ User และเจ้าหน้าที่ IT เท่านั้น แต่ยังทำให้องค์กรเสี่ยงต่อการโดนปรับหลักล้านโดยไม่รู้ตัว นอกจากเสียเงินแล้ว ยังเสียเวลาและเสียภาพลักษณ์อีกด้วย หากองค์กรใดที่ไม่อยากเผชิญกับปัญหาเหล่านี้ ต้องรีบเปลี่ยนมาใช้บริการ Microsoft Office 365 เราพร้อมเป็นที่ปรึกษาให้ฟรี พร้อมบริการตรวจสอบลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ของคนในองค์กร อีกทั้งยังช่วยเลือกแพ็กเกจลิขสิทธิ์ที่เหมาะสมกับแต่ละองค์กรเพื่อให้ค่าใช้จ่ายไม่บานปลาย ให้บริการโดยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สูง การันตีความน่าเชื่อถือด้วยเครื่องหมาย Microsoft Gold Partner ดูแลครบจบในที่เดียว 

สำหรับองค์กรใดที่กำลังชั่งใจว่า จะใช้เลือกใช้โปรแกรม Microsoft Office 2021 เวอร์ชันล่าสุด แบบซื้อ License ขาด ชำระรอบเดียว หรือใช้บริการ Microsoft Office 365 ที่เป็น Subscription ชำระค่าบริการรายเดือนอยู่ สามารถอ่านบทวิเคราะห์เทียบแบบหมัดต่อหมัดได้ที่นี่เลย 

*ที่มา: Microsoft