รับมือเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ด้วยโซลูชันสำรองข้อมูล

โซลูชันสำรองข้อมูล สำหรับองค์กร

ปัญหาข้อมูลสูญหาย ถือเป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ของการทำธุรกิจ เพราะในทุก ๆ วัน แต่ละบริษัทต้องใช้ข้อมูลเป็นหลักในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลลูกค้า ข้อมูลสินค้า หรือวิธีการดำเนินงาน ซึ่งหากข้อมูลเหล่านี้สูญหายไป ก็ย่อมก่อให้เกิดความเสียหายมูลค่ามหาศาล และทำให้ธุรกิจไม่อาจดำเนินต่อไปได้ ดังนั้นสิ่งที่จะช่วยปกป้องข้อมูลอันมีค่า ก็คือการใช้โซลูชันสำรองข้อมูล ที่มีประสิทธิภาพ บทความนี้จะพามาเจาะลึกถึงสถิติอันน่าตกใจของปัญหาข้อมูลสูญหาย พร้อมเหตุผลดี ๆ ที่องค์กรของคุณต้องมีโซลูชันสำรองข้อมูล ติดตามกันได้เลย

ส่องสถิติข้อมูลสูญหาย: ปัญหาที่สร้างความเสียหายให้หลายองค์กรทั่วโลก

เมื่อโลกของเราเข้าสู่ยุคแห่งเทคโนโลยีอย่างเต็มตัว หลายองค์กรก็เริ่มหันมาเก็บข้อมูลบนออนไลน์กันมากขึ้น เพราะข้อดีในเรื่องของความสะดวกสบาย และยังสามารถแชร์ให้กับลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว แต่บางครั้งความสะดวกนั้นก็มาพร้อมกับความเสี่ยง เพราะบางองค์กรยังคงมองข้ามการรักษาความปลอดภัยให้กับโฟลเดอร์เก็บข้อมูล จนทำให้ข้อมูลสำคัญไม่ปลอดภัยอีกต่อไป มาดูกันว่า ปัญหานี้สร้างความเสียหายให้องค์กรทั่วโลกอย่างไรบ้าง

  • ในปี 2022 ที่ผ่านมา ปัญหาข้อมูลสูญหายถือเป็นปัญหาร้ายแรงที่ทำให้หลายองค์กรต้องปิดตัวลงอย่างน่าเสียดาย โดยองค์กรกว่า 94% ที่เจอกับปัญหานี้ ไม่สามารถกู้คืนข้อมูลกลับมาได้ ส่งผลให้องค์กรมากถึง 51% ต้องปิดตัวลงภายในเวลาเพียง 2 ปี
  • อีกหนึ่งประเด็นที่น่าตกใจไม่แพ้กัน ก็คือการที่องค์กรต้องเผชิญกับการโจมตีทางไซเบอร์ โดย Hacker ได้ปล่อย Ransomware เข้ามาขโมยข้อมูลเพื่อเรียกค่าไถ่ แม้องค์กรจะยอมเสียเงินหลักล้านไปเพื่อแลกข้อมูลกลับมา แต่ก็ไม่อาจได้ข้อมูลกลับคืนมา 100%
  • นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยที่เกิดขึ้นจากคนในองค์กร เช่น การที่แผนก IT ละเลยความสำคัญของการสำรองข้อมูล เพราะคิดว่ามีโอกาสน้อยที่ข้อมูลจะสูญหาย รวมถึงอุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการที่พนักงานเผลอกดลบข้อมูลไปโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ อาจเป็นจุดเริ่มต้นของความเสียหายที่ร้ายแรง และทำให้ธุรกิจต้องหยุดชะงัก

สถิติเหล่านี้ ชี้ให้เห็นชัดว่า การที่องค์กรมีโซลูชันสำรองข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ เป็นหนึ่งวิธีที่จะช่วยลดความเสียหายจากเหตุการณ์ไม่คาดคิด ก่อนที่จะสายเกินแก้

ผู้ให้บริการด้าน IT ครบวงจร

โซลูชันสำรองข้อมูล ตัวช่วยสำคัญเพื่อองค์กรยุคดิจิตอล

ในยามที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ไม่ว่าจะเป็น

  • เหตุการณ์ภัยไซเบอร์
  • อุบัติเหตุจากกระแสไฟฟ้าขัดข้อง
  • อุปกรณ์เก็บข้อมูลเสื่อมสภาพ
  • เหตุการณ์ธรรมชาติที่ไม่อาจควบคุมได้ เช่น ไฟไหม้หรือน้ำท่วม
  • ความผิดพลาดที่เกิดจากพนักงาน

การมีระบบสำรองข้อมูล (Data Backup) ที่ทำหน้าที่สำรองข้อมูลอย่างต่อเนื่องตามเวลาที่กำหนดไว้ หรือคอยสำรองข้อมูลเก็บไว้แบบ Real-Time จะช่วยให้องค์กรสามารถกู้คืนข้อมูลสำคัญกลับมาได้อย่างทันท่วงที

3 ประเภทของการสำรองข้อมูลที่องค์กรต้องรู้จัก

  • Full Backup

คือ การสำรองข้อมูลทุกไฟล์ที่อยู่ในวินโดวส์ ตั้งแต่ไดรฟ์ C:\ , D:\ ไปจนถึงไดรฟ์อื่น ๆ

  • Incremental Backup

คือ การสำรองเฉพาะข้อมูลที่มีการเปลี่ยนแปลงจากข้อมูลที่เคยสำรองไปก่อนหน้า ข้อดีก็คือ ใช้เวลาในการสำรองข้อมูลที่เร็วกว่า และใช้พื้นที่จัดเก็บน้อยกว่า

  • Differential Backup

คือ การสำรองเฉพาะข้อมูลที่เพิ่มเข้ามาจากการทำ Full Backup เป็นวิธีที่ประหยัดเวลาและพื้นที่มากกว่าการทำ Full Backup แต่จะใช้พื้นที่มากกว่า Incremental Backup

ปัจจัยที่ควรพิจารณา ในการเลือกโซลูชันสำรองข้อมูลสำหรับองค์กร

  • ต้องเป็นระบบที่สามารถรองรับการสำรองข้อมูลได้อย่างไม่จำกัด
  • เลือกระบบที่ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน ผู้ใช้สามารถเรียกคืนข้อมูลเองได้
  • ต้องรองรับการสำรองข้อมูลบนระบบที่หลากหลาย ทั้ง Private, Public และ Hybrid Cloud
  • สามารถทำงานร่วมกับระบบต่าง ๆ ในองค์กรได้ เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการข้อมูล
  • ต้องมีความยืดหยุ่นสูง สามารถขยายได้ตามการเติบโตขององค์กร จนถึงสามารถรองรับข้อมูลระดับ Big Data ได้ในอนาคต
  • ควรเป็นโซลูชันแบบครบวงจร ไม่ต้องติดต่อผู้ให้บริการหลายเจ้า เพื่อลดความผิดพลาดและลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้จากการใช้งานระบบ

Konica Minolta ผู้ให้บริการด้าน IT ครบวงจร มาพร้อมบริการให้คำปรึกษาและติดตั้งระบบสำรองข้อมูล ที่สามารถสำรองข้อมูลได้แบบ Real-time เพิ่มความอุ่นใจในการทำงานได้มากกว่า ปรึกษาเราได้เลยวันนี้ ให้ผู้เชี่ยวชาญของเราช่วยนำเสนอโซลูชันที่ตอบโจทย์กับการใช้งานในองค์กรของคุณมากที่สุด โทร. 02-029-7000

แหล่งที่มา:

  1. Data Loss Statistics – 2023