เพิ่มความยืดหยุ่นให้ระบบ IT ด้วย Composable Infrastructure

Composable Infrastructure คือ โครงสร้างพื้นฐานที่ประกอบได้

ในโลกของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว “ความยืดหยุ่น” กลายเป็นหัวใจสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT และหนึ่งในคำที่กำลังถูกพูดถึงมากขึ้น คือ Composable Infrastructure หรือ โครงสร้างพื้นฐานที่ประกอบได้ ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานทรัพยากรต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการขยายตัวอย่างรวดเร็วและมีการพัฒนาแอปพลิเคชันแบบต่อเนื่อง

โครงสร้างพื้นฐานแบบประกอบได้ (Composable Infrastructure) คืออะไร ?

พูดง่าย ๆ ก็คือ สิ่งนี้เป็นแนวคิดที่ทำให้เราสามารถ “ประกอบ” ทรัพยากรไอทีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยประมวลผล (CPU), หน่วยความจำ (RAM), พื้นที่เก็บข้อมูล (Storage) หรือระบบเครือข่าย (Network) ได้แบบแยกส่วน แล้วนำมารวมกันให้เหมาะสมกับงานที่ต้องการใช้งาน

เปรียบเสมือนการสั่งอาหารตามสั่ง ที่เราสามารถเลือกได้ว่าอยากได้ข้าว ผัดกะเพรา ไข่ดาว หรือไม่เอาเผ็ด ทุกอย่างเลือกได้ตามใจ – เช่นเดียวกับการจัดสรรทรัพยากรใน Composable Infrastructure ที่สามารถกำหนดเองได้ว่าจะใช้อะไรบ้าง

Composable Infrastructure แตกต่างจากระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบเดิมอย่างไร ?

ในอดีต เราใช้ระบบที่ต้องซื้อฮาร์ดแวร์มาเป็นชุด เช่น Server 1 ชุด = CPU + RAM + Storage + Network ซึ่งใช้งานร่วมกันไม่ได้ หรือหากส่วนใดส่วนหนึ่งพัง อาจต้องเปลี่ยนทั้งระบบ

แต่ Composable Infrastructure แยกทุกอย่างออกจากกัน และบริหารผ่านซอฟต์แวร์ (Software-defined) ที่สามารถควบคุมและจัดการผ่านแผงควบคุมเดียว ทำให้เกิดความยืดหยุ่นในการใช้งาน

  • ไม่ต้องซื้อฮาร์ดแวร์เกินความจำเป็น
  • ใช้ทรัพยากรได้คุ้มค่าทุกหน่วย
  • ปรับเพิ่มหรือลดทรัพยากรได้แบบเรียลไทม์

ข้อดีของการใช้ Composable Infrastructure

  • เพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงาน : สามารถจัดสรรทรัพยากรได้ตรงความต้องการแบบ On-Demand
  • ลดต้นทุนด้านฮาร์ดแวร์ : ใช้เฉพาะที่จำเป็น ไม่ต้องซื้อเครื่องเซิร์ฟเวอร์แยกชุด
  • บริหารจัดการง่าย : ควบคุมได้จากศูนย์กลาง ไม่ต้องแยกดูแลเป็นรายเครื่อง
  • รองรับการเติบโตในอนาคต : พร้อมรองรับการขยายตัวของระบบ Cloud และ Hybrid Cloud

ข้อดีของการใช้ Composable Infrastructure

Composable Infrastructure ใช้งานอย่างไร ?

โดยทั่วไปจะมีซอฟต์แวร์กลางเป็นตัวบริหารจัดการ ซึ่งจะทำหน้าที่ดังนี้

  • รวบรวมทรัพยากรจากหลายแหล่ง (Storage, CPU, RAM, Network)
  • จัดการและจัดสรรทรัพยากรผ่าน Dashboard
  • ทำ Automation ได้ เช่น การเปิด VM ใหม่, ขยาย Storage ให้แอปโดยอัตโนมัติ

ตัวอย่างการใช้งานจริง

  • ทีมพัฒนาแอป ที่ต้องสร้างสภาพแวดล้อมใหม่ (Development Environment) บ่อย ๆ ก็สามารถ Spin ขึ้นมาใหม่ได้ในไม่กี่นาที
  • องค์กรที่มีระบบ ERP หรือระบบบัญชี สามารถแยกและปรับทรัพยากรตามแผนก เช่น ฝ่ายขายใช้ CPU เยอะ ฝ่ายบัญชีใช้ Storage เยอะ
  • บริษัท Startup หรือองค์กรที่เติบโตเร็ว ใช้เพื่อปรับขนาดระบบให้ทันกับการขยายตัวของธุรกิจ

ทำไม Composable Infrastructure จึงน่าจับตามอง ?

ในยุคที่การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องปกติ โครงสร้างพื้นฐานแบบเดิมอาจไม่สามารถตอบโจทย์ได้อีกต่อไป การเลือกใช้ Composable Infrastructure จึงเปรียบเสมือนการอัปเกรดแนวคิดเรื่อง Data Center ไปสู่ความยืดหยุ่นที่แท้จริง ช่วยให้องค์กรสามารถเติบโตอย่างมั่นคง ไปพร้อม ๆ กับการลดค่าใช้จ่าย และจัดการทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

องค์กรใดที่สนใจ สามารถปรึกษา Kinoca Minolta ได้ฟรี เราพร้อมให้บริการวางระบบคอมพิวเตอร์แบบครบวงจร ดูแลทุกขั้นตอนโดยทีมงานมืออาชีพ

ปรึกษาเราได้ที่ โทร. 02-029-7000

แหล่งที่มา:

  1. What is a composable infrastructure and what are its key benefits?